- สภาพคล่องที่ลดลง – เมื่อหุ้นถูกเพิกถอน ผู้ถือหุ้นจะไม่สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้อีก ทำให้สภาพคล่องลดลงอย่างมาก และอาจทำให้ขายหุ้นได้ยากขึ้น
- มูลค่าหุ้นที่ลดลง – การเพิกถอนหุ้นมักส่งผลให้มูลค่าของหุ้นลดลง เนื่องจากนักลงทุนอาจมองว่าบริษัทมีปัญหาหรือขาดความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจ
- สิทธิของผู้ถือหุ้น – ผู้ถือหุ้นอาจยังคงมีสิทธิในการถือหุ้นของบริษัทที่ถูกเพิกถอน แต่สิทธิในการออกเสียงและการรับปันผลอาจเปลี่ยนแปลงไปตามข้อบังคับของบริษัท
- ความยากลำบากในการขายหุ้น – ผู้ถือหุ้นอาจต้องขายหุ้นผ่านตลาดการค้าแบบตรง (Over-the-Counter, OTC) ซึ่งอาจมีความยากลำบากในการหาผู้ซื้อและอาจทำให้ราคาซื้อขายไม่เป็นธรรม
ข้อควรระวังและสิ่งที่ผู้ลงทุนควรทำเมื่อเกิดการเพิกถอนหุ้น
- ติดตามข่าวสาร – ผู้ถือหุ้นควรติดตามข่าวสารของบริษัทอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะทราบถึงสถานการณ์ทางการเงินของบริษัท การดำเนินงาน และแนวโน้มในการเพิกถอนหุ้น
- ประเมินมูลค่าหุ้น – หากมีแนวโน้มว่าหุ้นจะถูกเพิกถอน ควรทำการประเมินมูลค่าหุ้นและศึกษาว่าควรถือหรือขายหุ้นในช่วงเวลานั้น
- พิจารณาแผนการรับซื้อหุ้นคืน (Buyback) – บริษัทที่เพิกถอนหุ้นบางครั้งอาจเสนอแผนการรับซื้อหุ้นคืนในราคาที่กำหนด ผู้ถือหุ้นควรพิจารณาถึงข้อเสนอเหล่านี้เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุด
- ตรวจสอบทางเลือกการขายหุ้นผ่านตลาด OTC – หากหุ้นถูกเพิกถอนแล้ว ผู้ถือหุ้นยังสามารถขายหุ้นผ่านตลาด OTC ได้ ควรศึกษาวิธีการและข้อกำหนดในการขายผ่านช่องทางนี้
สรุป
การเพิกถอนหุ้นสามัญในตลาดหลักทรัพย์มีผลกระทบที่สำคัญต่อผู้ถือหุ้นทั้งด้านสภาพคล่อง มูลค่าการลงทุน และความยากลำบากในการซื้อขาย การเพิกถอนหุ้นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ ปัญหาทางการเงิน หรือการไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนจึงควรติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทอย่างสม่ำเสมอ ประเมินความเสี่ยง และพิจารณาแผนการลงทุนเพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ shutdown123